E85 คืออะไร? เติมแล้วแรงขึ้นจริงไหม? ไขข้อสงสัยสำหรับชาว RacingClub
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว RacingClub ทุกท่าน! วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องน้ำมันยอดฮิตที่หลายคนได้ยินชื่อกันบ่อยๆ นั่นก็คือ e85 คือ อะไร? เติมแล้วรถแรงขึ้นจริงหรือเปล่า? มีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง? เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาไขข้อสงสัยไปพร้อมๆ กันเลยครับ!
E85 คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยม?
e85 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่เกิดจากการผสมระหว่างเอทานอล (Ethanol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย มันสำปะหลัง หรือข้าวโพด กับน้ำมันเบนซิน โดยมีสัดส่วนของเอทานอลอยู่ที่ 85% และเบนซิน 15% ครับ
ที่ e85 คือ เป็นที่นิยมก็เพราะว่ามีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไป แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าด้วย เนื่องจากเอทานอลเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ได้จากพืช ทำให้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ครับ
ข้อดีของ E85 ที่คุณควรรู้
- ราคาถูก: E85 คือ น้ำมันที่มีราคาถูกกว่าเบนซินอย่างเห็นได้ชัด ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การใช้ e85 คือ การช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดมลพิษทางอากาศ
- ค่าออกเทนสูง: E85 คือ น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าเบนซินทั่วไป ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
- อาจเพิ่มแรงม้า: ในรถยนต์ที่ปรับแต่งมาเพื่อรองรับ e85 คือ อย่างเหมาะสม การใช้ E85 อาจช่วยเพิ่มแรงม้าได้เล็กน้อย
ข้อเสียของ E85 ที่ต้องพิจารณา
- ให้พลังงานน้อยกว่า: E85 คือ น้ำมันที่ให้พลังงานน้อยกว่าเบนซิน ทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าเมื่อเทียบกับเบนซิน
- ต้องเป็นรถยนต์ที่รองรับ: รถยนต์บางรุ่นไม่สามารถใช้ e85 คือ ได้ ต้องตรวจสอบคู่มือรถยนต์ หรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญก่อน
- อาจกัดกร่อน: เอทานอลใน e85 คือ อาจกัดกร่อนชิ้นส่วนบางอย่างในระบบเชื้อเพลิง หากรถยนต์ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับ
- หาเติมยาก: สถานีบริการน้ำมันที่จำหน่าย e85 คือ ยังมีจำนวนน้อยกว่าสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่ายเบนซิน
รถแบบไหนที่เติม E85 ได้?
รถยนต์ที่สามารถเติม e85 คือ ได้ จะต้องเป็นรถยนต์ที่ระบุไว้ในคู่มือรถยนต์ว่ารองรับน้ำมัน E85 หรือเป็นรถยนต์ FFV (Flexible Fuel Vehicle) ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถใช้น้ำมันเบนซินและ E85 ได้โดยไม่มีปัญหา
หากรถยนต์ของคุณไม่ได้ระบุว่ารองรับ E85 ห้ามเติม e85 คือ เด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
เติม E85 แล้วรถแรงขึ้นจริงหรือ?
คำถามยอดฮิต! การเติม e85 คือ แล้วรถแรงขึ้นจริงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างครับ
โดยทั่วไปแล้ว e85 คือ มีค่าออกเทนสูงกว่าเบนซิน ทำให้เครื่องยนต์สามารถจุดระเบิดได้ดีขึ้น และอาจช่วยเพิ่มแรงม้าได้เล็กน้อย แต่ ผลลัพธ์นี้จะเห็นได้ชัดเจนก็ต่อเมื่อรถยนต์ได้รับการปรับแต่ง (Tuned) เพื่อรองรับการใช้ E85 อย่างเหมาะสม เช่น ปรับจูนกล่อง ECU, เปลี่ยนหัวฉีด, หรือปรับอัตราส่วนกำลังอัด
ดังนั้น ถ้าคุณเติม e85 คือ ในรถยนต์ที่ไม่ได้รับการปรับแต่ง อาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในเรื่องของความแรงมากนัก แต่อาจจะรู้สึกว่ารถตอบสนองได้ดีขึ้นเล็กน้อยครับ
เติม E85 ต้องดูแลรักษารถยนต์อย่างไร?
หากคุณตัดสินใจที่จะเติม e85 คือ สิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือเรื่องของการดูแลรักษารถยนต์ครับ
- ตรวจเช็คท่อทางน้ำมัน: ควรตรวจเช็คท่อทางน้ำมันเป็นประจำ เพื่อดูว่ามีรอยรั่วซึม หรือการกัดกร่อนหรือไม่
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงบ่อยขึ้น: เนื่องจาก e85 คือ อาจมีสิ่งสกปรกมากกว่าเบนซิน จึงควรเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงบ่อยขึ้น
- สตาร์ทเครื่องยนต์: หากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ควรสตาร์ทเครื่องยนต์บ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ e85 คือ ตกตะกอน
- เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสม: ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้ E85
สรุป: E85 คุ้มค่าจริงไหม?
E85 คือ น้ำมันทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็มีข้อควรพิจารณาในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่สูงกว่า และความจำเป็นที่รถยนต์จะต้องรองรับการใช้งาน
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเติม e85 คือ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ตรวจสอบคู่มือรถยนต์ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ของคุณเหมาะสมกับการใช้น้ำมัน E85 ครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ชาว RacingClub นะครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามกันเข้ามาได้เลยครับ หรือจะลองดูคลิปความรู้เกี่ยวกับ E85 เพิ่มเติมได้ที่ YouTube
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า อย่าลืมติดตาม RacingClub เพื่ออัพเดทข่าวสารวงการรถยนต์และมอเตอร์สปอร์ตกันนะครับ!
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของน้ำมัน E85 กับ เบนซิน
คุณสมบัติ | E85 | เบนซิน |
---|---|---|
องค์ประกอบหลัก | เอทานอล 85% + เบนซิน 15% | ไฮโดรคาร์บอน |
ค่าออกเทน (โดยประมาณ) | 100-105 RON | 91-95 RON |
พลังงานต่อลิตร | ต่ำกว่าเบนซิน | สูงกว่า E85 |
อัตราสิ้นเปลือง | สูงกว่าเบนซิน | ต่ำกว่า E85 |
ราคา | ถูกกว่าเบนซิน | แพงกว่า E85 |
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม | เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า | ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า |