วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตัวเองง่าย ๆ สไตล์ RacingClub
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว RacingClub ทุกท่าน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป นั่นก็คือเรื่องของ “แบตเตอรี่รถยนต์” ครับ แบตเตอรี่เนี่ยเปรียบเสมือนหัวใจของรถเราเลยนะครับ ถ้าหัวใจไม่ดี รถก็ไปต่อไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ? และเมื่อถึงเวลาที่แบตเตอรี่หมดอายุ หรือเริ่มเสื่อมสภาพ เราก็จำเป็นต้องเปลี่ยนมัน วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ จริง ๆ แล้วไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน ประหยัดทั้งเงินและเวลา แถมยังได้ความภูมิใจอีกด้วย!
ทำไมต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เอง?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเปลี่ยนเอง ในเมื่อเราสามารถเอารถไปให้ช่างเปลี่ยนให้ได้? คำตอบก็คือ การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เองนั้นมีข้อดีหลายอย่างเลยครับ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: ค่าแรงช่างในการเปลี่ยนแบตเตอรี่อาจจะไม่สูงมาก แต่ถ้าเราทำเองได้ ก็ประหยัดเงินส่วนนี้ไปได้
- สะดวกสบาย: ไม่ต้องเสียเวลาเอารถไปเข้าอู่ รอคิว หรือเดินทาง
- ได้ความรู้: การเปลี่ยนแบตเตอรี่เอง จะทำให้เราเข้าใจระบบไฟฟ้าของรถยนต์มากขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ด้วยตัวเอง
- ภูมิใจ: เมื่อเราทำอะไรสำเร็จด้วยตัวเอง มันก็ย่อมเกิดความภาคภูมิใจใช่มั้ยล่ะครับ
เตรียมตัวก่อนลงมือเปลี่ยนแบตเตอรี่
ก่อนที่เราจะเริ่ม วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ เรามาเตรียมตัวให้พร้อมกันก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- แบตเตอรี่ลูกใหม่: เลือกแบตเตอรี่ให้ตรงกับรุ่นและประเภทของรถยนต์ของคุณ
- ประแจเบอร์ 10 และ 13: หรือเบอร์อื่น ๆ ที่เหมาะสมกับรถของคุณ
- ผ้าสะอาด: สำหรับเช็ดทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่
- แปรงขัดขั้วแบตเตอรี่: (ถ้ามี) ช่วยขัดคราบสกปรกที่ขั้วแบตเตอรี่
- ถุงมือ: เพื่อป้องกันมือจากสิ่งสกปรกและสารเคมี
- แว่นตานิรภัย: เพื่อป้องกันดวงตาจากเศษผงหรือสารเคมี
ข้อควรระวัง
- ความปลอดภัยต้องมาก่อน: สวมถุงมือและแว่นตานิรภัยเสมอ
- ดับเครื่องยนต์: ก่อนเริ่มทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ต้องดับเครื่องยนต์ก่อนทุกครั้ง
- ถอดกุญแจออกจากสวิตช์: เพื่อป้องกันไม่ให้สตาร์ทรถโดยไม่ได้ตั้งใจ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสขั้วแบตเตอรี่โดยตรง: เพราะอาจจะเกิดไฟฟ้าช็อตได้
ขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์อย่างละเอียด
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เรามาเริ่ม วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ กันเลยครับ
- เปิดฝากระโปรงรถ: หาตำแหน่งแบตเตอรี่ (ส่วนใหญ่อยู่ในห้องเครื่อง)
- คลายขั้วลบ (-) ก่อนเสมอ: ใช้ประแจคลายขั้วลบออก แล้วค่อย ๆ ถอดออก
- คลายขั้วบวก (+) ตาม: ทำเช่นเดียวกับขั้วลบ
- ถอดตัวยึดแบตเตอรี่: อาจจะเป็นเหล็ก หรือพลาสติกที่ยึดแบตเตอรี่ไว้กับตัวรถ
- ยกแบตเตอรี่ลูกเก่าออก: ยกอย่างระมัดระวัง เพราะแบตเตอรี่มีน้ำหนักพอสมควร
- ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่: ใช้ผ้าสะอาด หรือแปรงขัดขั้วแบตเตอรี่ ขัดคราบสกปรกออก
- ใส่แบตเตอรี่ลูกใหม่: วางแบตเตอรี่ลูกใหม่ลงในตำแหน่งเดิม
- ใส่ตัวยึดแบตเตอรี่: ขันตัวยึดให้แน่น
- ใส่ขั้วบวก (+) ก่อนเสมอ: ขันให้แน่น
- ใส่ขั้วลบ (-) ตาม: ขันให้แน่น
- ตรวจสอบความเรียบร้อย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขั้วแบตเตอรี่และตัวยึดแน่นหนา
- ปิดฝากระโปรงรถ: เสร็จสิ้น!
ข้อควรจำหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่
หลังจากเปลี่ยนแบตเตอรี่เสร็จแล้ว มีข้อควรจำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อยากจะแนะนำครับ
- สตาร์ทรถ: ลองสตาร์ทรถเพื่อตรวจสอบว่าทุกอย่างทำงานปกติ
- รีเซ็ตระบบ: รถบางรุ่นอาจจะต้องรีเซ็ตระบบไฟฟ้า เช่น วิทยุ หรือนาฬิกา
- ทิ้งแบตเตอรี่เก่าอย่างถูกวิธี: แบตเตอรี่เก่าถือเป็นขยะอันตราย ควรนำไปทิ้งในที่ที่จัดไว้ หรือติดต่อร้านแบตเตอรี่เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง
ตารางเปรียบเทียบแบตเตอรี่รถยนต์ (ตัวอย่าง)
| ยี่ห้อ | รุ่น | CCA (Cold Cranking Amps) | ราคา (โดยประมาณ) |
|---|---|---|---|
| GS Battery | MFX-60L | 500 | 2,500 บาท |
| FB Battery | S-1300L | 550 | 2,800 บาท |
| Yuasa | YTX7L-BS | 130 | 2,200 บาท |
(หมายเหตุ: ตารางนี้เป็นเพียงตัวอย่าง ราคาอาจแตกต่างกันไปตามร้านค้าและโปรโมชั่น)
วิดีโอสาธิตการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์
หากเพื่อน ๆ อยากเห็นภาพ วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ แบบชัดเจน ลองดูวิดีโอสาธิตได้ที่นี่เลยครับ: YouTube
สรุป
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ นะครับ วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ทำตามขั้นตอนอย่างระมัดระวัง เท่านี้เราก็สามารถประหยัดเงินและดูแลรถของเราได้ด้วยตัวเองแล้วครับ ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ!
