ไขข้อข้องใจ! เครื่องยนต์เบนซิน กับ เครื่องยนต์ดีเซล ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนให้โดนใจสายซิ่ง!
สำหรับชาว Racing Club ทั้งหลาย เชื่อว่าหลายคนคงเคยสงสัยกันใช่ไหมครับว่า เครื่องยนต์เบนซิน กับ เครื่องยนต์ดีเซล ต่างกันอย่างไร แล้วแบบไหนมันจะเหมาะกับสไตล์การขับขี่ของเรามากกว่ากัน? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยนี้กันแบบหมดเปลือก เข้าใจง่าย ไม่ต้องปวดหัวกับศัพท์เทคนิคเยอะแยะ พร้อมทั้งแนะนำว่าควรเลือกเครื่องยนต์แบบไหนให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด ตามมาดูกันเลย!
ทำความรู้จักกับเครื่องยนต์เบนซิน: แรง เร้าใจ รอบจัด
เครื่องยนต์เบนซิน เป็นเครื่องยนต์ที่คุ้นเคยกันดีในรถยนต์นั่งส่วนใหญ่ ด้วยลักษณะเด่นที่ให้กำลังสูง รอบจัด ตอบสนองคันเร่งได้ทันใจ ทำให้ขับสนุก เหมาะสำหรับคนที่ชอบความแรงและความคล่องตัวในการขับขี่ในเมือง
หลักการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน
หลักการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินนั้น อาศัยการจุดระเบิดของส่วนผสมระหว่างอากาศและน้ำมันเบนซินด้วยประกายไฟจากหัวเทียน โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- ดูด (Intake): ลูกสูบเคลื่อนที่ลง ทำให้เกิดแรงดูด อากาศและน้ำมันเบนซิน (ในรูปแบบไอ) ถูกดูดเข้าไปในกระบอกสูบ
- อัด (Compression): ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น อัดส่วนผสมของอากาศและน้ำมันเบนซินให้มีปริมาตรเล็กลง ทำให้ส่วนผสมมีอุณหภูมิสูงขึ้น
- ระเบิด (Combustion): หัวเทียนจุดประกายไฟ ทำให้ส่วนผสมของอากาศและน้ำมันเบนซินระเบิด ดันลูกสูบลง
- คาย (Exhaust): ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น ดันไอเสียออกจากกระบอกสูบ
ข้อดีของเครื่องยนต์เบนซิน
- กำลังสูง รอบจัด: ให้กำลังสูงสุดในช่วงรอบเครื่องยนต์ที่สูง ทำให้รถมีอัตราเร่งดี ขับสนุก
- เสียงเครื่องยนต์เพราะ: หลายคนชื่นชอบเสียงคำรามของเครื่องยนต์เบนซิน
- น้ำหนักเบา: โดยทั่วไปเครื่องยนต์เบนซินมีน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ดีเซล
- ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า: โดยเฉลี่ยค่าบำรุงรักษาเครื่องยนต์เบนซินจะต่ำกว่าเครื่องยนต์ดีเซล
ข้อเสียของเครื่องยนต์เบนซิน
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสูงกว่า: โดยทั่วไปเครื่องยนต์เบนซินกินน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ดีเซล
- แรงบิดต่ำกว่า: แรงบิด (Torque) หรือกำลังในการลากจูงของเครื่องยนต์เบนซินจะน้อยกว่าเครื่องยนต์ดีเซล
ทำความรู้จักกับเครื่องยนต์ดีเซล: แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน
เครื่องยนต์ดีเซล เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมในรถกระบะ รถบรรทุก และรถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ ด้วยจุดเด่นที่แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรถที่สามารถบรรทุกของหนัก ลากจูง หรือขับทางไกลเป็นประจำ
หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล
หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลนั้น อาศัยการอัดอากาศให้มีอุณหภูมิสูงมาก จนเมื่อฉีดน้ำมันดีเซลเข้าไป น้ำมันจะเกิดการจุดระเบิดเอง โดยไม่ต้องใช้หัวเทียน โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- ดูด (Intake): ลูกสูบเคลื่อนที่ลง ดูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในกระบอกสูบ
- อัด (Compression): ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น อัดอากาศให้มีปริมาตรเล็กลงอย่างมาก ทำให้อุณหภูมิของอากาศสูงขึ้นมาก
- ระเบิด (Combustion): หัวฉีด (Injector) ฉีดน้ำมันดีเซลเข้าไปในกระบอกสูบ น้ำมันจะเกิดการจุดระเบิดเองเนื่องจากความร้อนสูง ดันลูกสูบลง
- คาย (Exhaust): ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น ดันไอเสียออกจากกระบอกสูบ
ข้อดีของเครื่องยนต์ดีเซล
- แรงบิดสูง: ให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ทำให้รถมีกำลังในการลากจูงดี
- ประหยัดน้ำมัน: โดยทั่วไปเครื่องยนต์ดีเซลประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
- ทนทาน: เครื่องยนต์ดีเซลมักถูกสร้างให้มีความแข็งแรงทนทานกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
ข้อเสียของเครื่องยนต์ดีเซล
- กำลังต่ำกว่า: กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ดีเซลมักจะต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซินที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
- เสียงดังกว่า: เครื่องยนต์ดีเซลมีเสียงดังและการสั่นสะเทือนมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
- ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า: เครื่องยนต์ดีเซลมักมีค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่ซับซ้อนกว่า
- ปล่อยมลพิษมากกว่า: ในอดีตเครื่องยนต์ดีเซลปล่อยมลพิษมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาไปมาก ทำให้มลพิษลดลง
ตารางเปรียบเทียบ เครื่องยนต์เบนซิน กับ เครื่องยนต์ดีเซล
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูตารางเปรียบเทียบ เครื่องยนต์เบนซิน กับ เครื่องยนต์ดีเซล กันครับ
คุณสมบัติ | เครื่องยนต์เบนซิน | เครื่องยนต์ดีเซล |
---|---|---|
กำลัง | สูง | ต่ำกว่า |
แรงบิด | ต่ำ | สูง |
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน | สูง | ต่ำ |
เสียง | เงียบกว่า | ดังกว่า |
ค่าบำรุงรักษา | ต่ำกว่า | สูงกว่า |
การใช้งาน | ขับในเมือง ขับสนุก | บรรทุก ลากจูง ขับทางไกล |
สรุป: เลือกแบบไหนให้โดนใจสายซิ่ง?
ถึงตรงนี้ หลายคนคงพอจะเห็นภาพรวมของ เครื่องยนต์เบนซิน กับ เครื่องยนต์ดีเซล ต่างกันอย่างไร กันแล้วนะครับ ทีนี้ก็ถึงเวลาตัดสินใจแล้วว่าเครื่องยนต์แบบไหนที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่และลักษณะการใช้งานของคุณ
- ถ้าคุณเป็นสายซิ่ง ชอบความแรง เร้าใจ ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก: เลือกเครื่องยนต์เบนซินครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
- ถ้าคุณต้องการรถที่บรรทุกของหนัก ลากจูง หรือขับทางไกลเป็นประจำ: เครื่องยนต์ดีเซลคือคำตอบของคุณ
- ถ้าคุณให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมัน: เครื่องยนต์ดีเซลก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
สุดท้ายนี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ชาว Racing Club ทุกคนนะครับ ขอให้สนุกกับการเลือกเครื่องยนต์ที่ใช่ และมีความสุขกับการขับขี่!