• Home
  • Uncategorized
  • เคล็ด(ไม่)ลับ: การเลือกหมวกกันน็อคคู่ใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง!

เคล็ด(ไม่)ลับ: การเลือกหมวกกันน็อคคู่ใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง!

หัวข้อแนะนำ

เคล็ด(ไม่)ลับ: การเลือกหมวกกันน็อคคู่ใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง!

สวัสดีนักบิดและนักซ้อนทั้งหลาย! เคยไหม? ขี่รถไป เจอแดดแรง ลมปะทะหน้า หรือเจอฝุ่นควันจนแสบตา… แถมยังกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกต่างหาก? วันนี้ RacingClub ขออาสาพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกเรื่อง การเลือกหมวกกันน็อค คู่ใจ ที่ไม่ใช่แค่เท่ แต่ต้องปลอดภัยหายห่วง! เพราะชีวิตเรามีค่ากว่าหมวกหลายเท่าจริงไหม?

ทำไมต้องใส่หมวกกันน็อค?

ก่อนจะไปถึง การเลือกหมวกกันน็อค เรามาทบทวนความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อคกันก่อนดีกว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่บางครั้งเราก็อาจจะละเลยไปบ้าง

  • ป้องกันศีรษะ: ข้อนี้สำคัญที่สุด! หมวกกันน็อคช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ช่วยปกป้องสมองของเรา
  • ป้องกันอันตรายจากภายนอก: ไม่ว่าจะเป็นเศษหิน ดิน ทราย แมลง หรือแม้แต่ลมแรงๆ หมวกกันน็อคช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้มาทำอันตรายกับใบหน้าและดวงตาของเรา
  • เพิ่มทัศนวิสัย: หมวกกันน็อคบางรุ่นมีแว่นกันแดดในตัว ช่วยให้เรามองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในสภาพอากาศที่แดดจ้า
  • ถูกกฎหมาย: ในประเทศไทย การไม่สวมหมวกกันน็อคถือเป็นความผิดตามกฎหมายจราจร

ประเภทของหมวกกันน็อค: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับสไตล์

หมวกกันน็อคมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป มาดูกันว่ามีแบบไหนบ้าง แล้วแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

1. หมวกกันน็อคเต็มใบ (Full-face Helmet)

ความปลอดภัยสูงสุด: ครอบคลุมทั้งศีรษะ ใบหน้า และคาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

เหมาะกับ: การขับขี่ด้วยความเร็วสูง การเดินทางไกล หรือการขับขี่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงอันตราย

ข้อเสีย: อาจจะรู้สึกอึดอัดและร้อนอบอ้าวในสภาพอากาศร้อน

2. หมวกกันน็อคเปิดหน้า (Open-face Helmet)

ความสบาย: เปิดโล่ง สบาย ระบายอากาศได้ดีกว่า

เหมาะกับ: การขับขี่ในเมือง การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ หรือผู้ที่ชอบความรู้สึกอิสระ

ข้อเสีย: ไม่สามารถป้องกันใบหน้าและคางได้

3. หมวกกันน็อคครึ่งใบ (Half Helmet)

น้ำหนักเบา: ใส่สบาย แต่ป้องกันได้น้อยที่สุด

เหมาะกับ: การขับขี่ในระยะทางใกล้ๆ ด้วยความเร็วต่ำมากๆ

ข้อเสีย: ไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะป้องกันได้น้อยมาก

4. หมวกกันน็อควิบาก (Off-road Helmet)

ออกแบบมาเพื่อ: การขับขี่วิบากโดยเฉพาะ มีกระบังหน้ายาวเพื่อป้องกันแสงแดดและเศษดิน

เหมาะกับ: นักบิดสายลุย

ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับการขับขี่บนถนนทั่วไป เพราะอาจจะต้านลมมากเกินไป

5. หมวกกันน็อคแบบยกคาง (Modular Helmet)

อเนกประสงค์: สามารถยกคางขึ้นได้ ทำให้สะดวกในการพูดคุยหรือดื่มน้ำ

เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยในระดับหนึ่ง

ข้อเสีย: อาจจะมีน้ำหนักมากกว่าหมวกกันน็อคเต็มใบ

การเลือกหมวกกันน็อค ที่ใช่ ต้องดูอะไรบ้าง?

เมื่อรู้ประเภทของหมวกกันน็อคแล้ว คราวนี้เรามาดูปัจจัยสำคัญในการ การเลือกหมวกกันน็อค กันบ้าง

1. ขนาดที่พอดี

สำคัญที่สุด! หมวกกันน็อคต้องกระชับพอดีกับศีรษะ ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป หากหลวมเกินไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หมวกอาจจะหลุดออกมาได้ หากแน่นเกินไป ก็จะทำให้ปวดศีรษะและไม่สบาย

วิธีวัดขนาดศีรษะ: ใช้สายวัด วัดรอบศีรษะเหนือคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเทียบกับตารางขนาดของแต่ละยี่ห้อ

เคล็ดลับ: ลองใส่หมวกแล้วขยับศีรษะไปมา หากหมวกขยับตามไปด้วย แสดงว่าขนาดไม่พอดี

2. มาตรฐานความปลอดภัย

มองหาเครื่องหมายรับรอง: หมวกกันน็อคที่ดีต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย เช่น DOT (Department of Transportation), ECE (Economic Commission for Europe), หรือ Snell

3. วัสดุ

เปลือกนอก: ทำจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก เช่น ABS, Polycarbonate, Fiberglass, หรือ Carbon Fiber

ชั้นใน: ทำจากวัสดุที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดี เช่น EPS (Expanded Polystyrene)

4. ชิลด์หน้า (Visor)

มองเห็นชัดเจน: ชิลด์หน้าควรใส มองเห็นได้ชัดเจน ไม่บิดเบือนภาพ และป้องกันรังสี UV ได้

เปลี่ยนได้: ควรเลือกหมวกที่สามารถเปลี่ยนชิลด์หน้าได้ง่าย เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพอากาศ

5. ระบบระบายอากาศ

ไม่อับชื้น: หมวกกันน็อคที่ดีควรมีช่องระบายอากาศที่เพียงพอ เพื่อช่วยระบายความร้อนและความชื้น

6. ความสบาย

บุภายใน: บุภายในควรนุ่มสบาย ถอดซักได้ และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

7. น้ำหนัก

ไม่หนักเกินไป: หมวกกันน็อคที่ไม่หนักเกินไป จะช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่

8. งบประมาณ

สมเหตุสมผล: กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม แล้วเลือกหมวกกันน็อคที่มีคุณภาพดีที่สุดในงบประมาณนั้น

ดูแลรักษาหมวกกันน็อคอย่างไร?

เมื่อได้หมวกกันน็อคที่ถูกใจแล้ว ก็อย่าลืมดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ

  • ทำความสะอาด: เช็ดทำความสะอาดหมวกกันน็อคเป็นประจำด้วยผ้าสะอาดและน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม
  • เก็บรักษา: เก็บหมวกกันน็อคในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดจัด
  • ตรวจสอบ: ตรวจสอบหมวกกันน็อคเป็นประจำ หากพบรอยร้าว รอยแตก หรือความเสียหายอื่นๆ ควรรีบเปลี่ยนใหม่
  • อายุการใช้งาน: หมวกกันน็อคมีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี ควรเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงเวลา

สรุป

การเลือกหมวกกันน็อค ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เลือกหมวกกันน็อคที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของเรา ขนาดที่พอดี มาตรฐานความปลอดภัย และดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ เท่านี้เราก็สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยแล้วครับ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ นักบิดทุกคนนะครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ RacingClub ได้เลยครับ

อย่าลืม! ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ ขับขี่ด้วยความระมัดระวังนะครับ และถ้าอยากเห็นวิธีการ การเลือกหมวกกันน็อค แบบละเอียด ลองดูคลิปนี้เลย: YouTube

ตารางเปรียบเทียบหมวกกันน็อคแต่ละประเภท

ประเภทหมวก ความปลอดภัย ความสบาย เหมาะสำหรับ ข้อเสีย
เต็มใบ (Full-face) สูงสุด น้อย ความเร็วสูง, เดินทางไกล อึดอัด, ร้อน
เปิดหน้า (Open-face) ปานกลาง สูง ในเมือง, ความเร็วต่ำ ไม่ป้องกันใบหน้า
ครึ่งใบ (Half) น้อยมาก สูง ระยะใกล้, ความเร็วต่ำมาก อันตราย
วิบาก (Off-road) สูง ปานกลาง วิบาก ต้านลม
ยกคาง (Modular) ปานกลาง ปานกลาง อเนกประสงค์ หนัก

คำนวณงวดรถ

คำนวณค่างวดรถ

ค่าผ่อนรถโดยประมาณ

0.00

บาท/เดือน

Youtube Cannel

Facebook Fanpage

Scroll to Top