รู้ก่อนขับ! ไขความลับ จุดบอดของรถ ที่มือใหม่ต้องระวัง
เคยไหม? ขับรถอยู่ดีๆ เกือบชนคันข้างๆ เพราะมองไม่เห็น! ปัญหานี้แหละที่เรียกว่า จุดบอดของรถ (Blind Spot) ภัยเงียบที่นักขับทุกคนต้องรู้และระวัง ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับ หรือมือเก๋าที่ขับมานาน เพราะ จุดบอดของรถ อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้เลยนะ วันนี้ RacingClub จะมาไขความลับ จุดบอดของรถ แบบเจาะลึก เข้าใจง่าย พร้อมวิธีแก้ไข รับรองอ่านจบ ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจขึ้นเยอะแน่นอน!
ทำความเข้าใจ จุดบอดของรถ คืออะไร?
จุดบอดของรถ คือบริเวณรอบรถที่กระจกมองข้างและกระจกมองหลังไม่สามารถสะท้อนภาพให้เห็นได้ ทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นรถคันอื่น คนเดินเท้า หรือสิ่งกีดขวางที่อยู่ในบริเวณนั้น พูดง่ายๆ ก็คือ เป็น “มุมอับ” ที่เรามองไม่เห็นนั่นเอง
ทำไมถึงเกิด จุดบอดของรถ?
จุดบอดของรถ เกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน:
- การออกแบบตัวรถ: รูปทรงของเสา A, B, และ C (เสาที่ยึดหลังคา) มีผลต่อการบดบังทัศนวิสัย
- ตำแหน่งที่นั่งคนขับ: มุมมองจากที่นั่งคนขับมีข้อจำกัดในการมองเห็นรอบรถ
- ขนาดของกระจกมองข้างและกระจกมองหลัง: กระจกที่มีขนาดเล็กอาจไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่รอบรถได้ทั้งหมด
จุดบอดของรถ อยู่ตรงไหนบ้าง?
โดยทั่วไป จุดบอดของรถ จะอยู่บริเวณ:
- ด้านข้างรถ: บริเวณด้านข้างรถเยื้องไปทางด้านหลังเล็กน้อย เป็นจุดที่รถคันอื่นมักจะเข้ามาอยู่ในเลนข้างๆ โดยที่เรามองไม่เห็น
- ด้านหลังรถ: โดยเฉพาะรถที่มีท้ายลาดชัน หรือรถกระบะที่มีกระบะท้ายสูง จะมี จุดบอดของรถ ด้านหลังค่อนข้างมาก
- เสา A: เสา A ที่อยู่ด้านข้างกระจกบังลมหน้า อาจบดบังคนเดินเท้า รถจักรยาน หรือรถจักรยานยนต์ที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากด้านข้าง
อันตรายจาก จุดบอดของรถ ที่คุณอาจไม่เคยรู้
จุดบอดของรถ เป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุหลายประเภท:
- การเปลี่ยนเลน: หากเปลี่ยนเลนโดยไม่ตรวจสอบ จุดบอดของรถ ให้ดี อาจชนกับรถที่อยู่ในเลนข้างๆ ได้
- การถอยรถ: จุดบอดของรถ ด้านหลังเป็นอันตรายอย่างยิ่งในการถอยรถ อาจชนกับคนเดินเท้า เด็กเล็ก สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ
- การเลี้ยวรถ: ในการเลี้ยวรถ โดยเฉพาะเลี้ยวซ้าย อาจมองไม่เห็นรถจักรยานยนต์ที่กำลังแทรกขึ้นมา
วิธีแก้ไขและป้องกันอันตรายจาก จุดบอดของรถ
ถึงแม้ว่า จุดบอดของรถ จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกิดจาก จุดบอดของรถ ได้ด้วยวิธีเหล่านี้:
1. ปรับกระจกมองข้างให้ถูกต้อง
การปรับกระจกมองข้างให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลด จุดบอดของรถ โดยมีหลักการง่ายๆ คือ:
- กระจกมองข้างด้านข้าง: ปรับให้มองเห็นด้านข้างของตัวรถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เน้นให้เห็นภาพถนนด้านข้างให้มากที่สุด
- กระจกมองข้างด้านใน (กระจกมองหลัง): ปรับให้เห็นภาพด้านหลังรถได้เต็มที่
2. ใช้เทคนิค Blind Spot Check
ก่อนเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวรถ ให้หันศีรษะไปมองบริเวณ จุดบอดของรถ อย่างรวดเร็ว (Shoulder Check) เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรถคันอื่นอยู่ในบริเวณนั้น YouTube มีสอนเทคนิคนี้เยอะแยะเลย ลองไปดูกันได้นะ
3. ติดตั้งอุปกรณ์เสริม
ปัจจุบันมีอุปกรณ์เสริมมากมายที่ช่วยลด จุดบอดของรถ ได้ เช่น:
- กระจกมองข้างแบบ Wide Angle: กระจกที่มีมุมมองกว้างขึ้น ช่วยให้มองเห็นบริเวณด้านข้างรถได้มากขึ้น
- ระบบ Blind Spot Monitoring System (BSM): ระบบที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับรถที่อยู่ใน จุดบอดของรถ และแจ้งเตือนผู้ขับขี่
- กล้องมองหลัง: ช่วยให้มองเห็นด้านหลังรถได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเวลาถอยรถ
4. ขับรถด้วยความระมัดระวัง
ไม่ว่าจะใช้เทคนิคหรืออุปกรณ์อะไรก็ตาม การขับรถด้วยความระมัดระวัง มีสติ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า และเว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้เหมาะสม
ตารางสรุป จุดบอดของรถ และวิธีแก้ไข
| จุดบอด | ตำแหน่ง | อันตราย | วิธีแก้ไข |
|---|---|---|---|
| ด้านข้าง | บริเวณด้านข้างรถเยื้องไปทางด้านหลัง | ชนขณะเปลี่ยนเลน | ปรับกระจกมองข้าง, Blind Spot Check, ระบบ BSM |
| ด้านหลัง | บริเวณด้านหลังรถ | ชนขณะถอยรถ | กล้องมองหลัง, เซ็นเซอร์ถอย |
| เสา A | บริเวณเสา A ด้านข้างกระจกบังลมหน้า | ชนคนเดินเท้า, จักรยานยนต์ | มองให้ทั่วก่อนเลี้ยว, ชะลอความเร็ว |
สรุป
จุดบอดของรถ เป็นสิ่งที่นักขับทุกคนต้องตระหนักและระมัดระวัง การทำความเข้าใจ จุดบอดของรถ และรู้วิธีแก้ไข จะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่าลืมนำเคล็ดลับที่เราแนะนำไปปรับใช้ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนนะครับ!












