K-Speed

สารบัญเนื้อหา

K-Speed สำนักแต่งมอเตอร์ไซค์สายคัสตอม

              วันนี้ Racing Club ขอเอาใจชาว BigBike กันหน่อย โดยคาดว่าชาวไบค์เกอร์ทั้งหลายคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อของอู่ K-SPEED สำนักแต่งที่ใครๆก็ต่างพากันให้สโลแกนว่า มาที่เดียว จบทุกอย่าง ซึ่งหมายความว่า ใครคิดจะแต่งรถ โมดิฟาย หรือคัสตอมรถบิ๊กไบค์คันโปรดให้มีความสวยงามดั่งใจต้องการ แต่ติดปัญหาที่เครื่องไม้เครื่องมือของแต่ละสำนักมีไม่เพียงพอ จึงต้องไปอู่นู้นบ้าง อู่นี้บ้าง ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการที่จะให้ทำรถมีความเป็นสไตล์แบบที่ท่านต้องการ ดังนั้นอู่ K-SPEED จึงเกิดไอเดียที่ว่า ทำไมไม่รวมทุกอย่างให้อยู่ในที่เดียวกันไปเลยล่ะ สำนักแต่งสุดล้ำสมัยแห่งนี้จึงเกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ทาง Racing Club จะมาทำความรู้จักถึงที่ไปที่มาและคอนเซปต์ในการตกแต่ง BigBike ในแต่ละคัน ว่ามีแนวคิดและวิธีการ ขั้นตอนกันอย่างไรบ้าง

K-Speed

สำนักแต่ง K-SPEED ดูแลโดยคุณ ธนดิษ สาระเวก (เอก) ขวัญใจของชาวไบค์เกอร์ที่เรียกได้ว่ารู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับการตกแต่ง BigBike มาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งสำนักแต่งแห่งนี้ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมาแล้วมากมาย เช่น รางวัลที่ 1 จาก Honda Idea ในรูปแบบการตกแต่งรถแบบ Naked (เน็กเก็ต) และรองชนะเลิศการตกแต่งรถ Honda Zoomer X ในปี 2012 โดยคุณเอกได้พูดถึงที่มาของอู่ K-SPEED ว่า เริ่มต้นจากการที่ตนเองชอบตกแต่งมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่แล้ว ต่อมาจึงมีการสั่งสมประสบการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยศึกษาจากแคตตาล็อกและแม็กกาซีนรถของประเทศญี่ปุ่น และจากความชื่นชอบตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์โดยส่วนตัวอยู่แล้วนั่นเอง 

K-Speed

  K-SPEED ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 โดยเริ่มจากการที่เพื่อนฝูงในวงการ BigBike ชอบมาปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการตกแต่งและปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหาที่โมดิฟายรถคู่ใจได้ยาก เครื่องไม้เครื่องมือไม่เพียงพอ คุณเอกจึงเกิดไอเดียที่ว่า น่าจะมีสำนักแต่งที่สามารถรวบรวมเครื่องมือที่มีความจำเป็นต่อการตกแต่งให้มาอยู่ในที่เดียวกันไปซะเลย แนวคิดของสำนักแต่ง K-SPEED คือ การหาอะไหล่ที่ลูกค้าต้องการมาขาย โดยจำหน่ายในราคาที่สามารถจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป และทำการผลิตอะไหล่ด้วย เนื่องจากในสมัยก่อตั้งบริษัทนั้น รถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยนั้นหาได้ยาก และมีราคาสูง ซึ่งในปัจจุบันสำนักแต่งแห่งนี้มีลูกค้าประจำอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อน และลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ต้องนำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่รุ่นที่มีความต้องการสูง หรือที่เรียกกันว่าเป็นรถตลาดนั่นเอง เช่น ถ้าเป็นของแบรนด์ Kawasaki ก็จะเป็นพวก Ninja300, Z300, ER6N, Z800 และถ้าเป็นในส่วนของ Honda ก็จะเป็น CBR650, CBR500 เป็นต้น

K-Speed

   ลูกค้าของ K-SPEED จะรู้กันดีว่าสำนักแต่งแห่งนี้มีการตกแต่งที่แปลก แตกต่างไม่เหมือนใคร ซึ่งทางอู่จะทำการตกแต่งไว้เป็นต้นแบบก่อน เมื่อลูกค้ามาเห็นก็จะเกิดความชอบแล้วจึงมาโมดิฟายตามรถที่ตนชอบ ซึ่งทางร้านจะเน้นการตกแต่งในสไตล์คัสตอมแบบนี้เป็นหลัก และอีกประเภทก็คือเป็นรถเดิมๆมาที่ร้านแล้วก็เลือกของแต่งได้เลย ซึ่งทางร้านก็มีอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือกสรรกันได้อย่างจุใจชาวไบค์เกอร์ทั้งหลายกันเลยทีเดียว

คุณเอกแห่งสำนักแต่ง K-SPEED ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องฝีมือของคนไทยว่า ในเรื่องฝีมือคนไทยไม่แพ้อยู่แล้ว แต่ในด้านอุปกรณ์ คนไทยยังตามหลังประเทศอเมริกาอยู่มาก ซึ่งใน Shop Custom ของอเมริกานั้นมีเครื่องมีและอุปกรณ์การทำแบบครบวงจร เช่น เครื่อง CNC, เครื่องอ๊อก, เครื่องดัด ซึ่งมีความจำเป็นต่อการใช้งาน รวบรวมอยู่ในหลังคาเดียวกัน แต่ในประเทศไทยนั้นจะเป็นไปในรูปแบบแยกอู่กัน หาสำนักที่มีเครื่องมือครบเลยนั้นยาก ดังนั้นสำนักแต่ง K-SPEED จึงจัดเต็มกันในด้านเครื่องไม้เครื่องมือกันเลยทีเดียว จึงได้ชื่อว่า K-SPEED มาที่เดียว จบทุกอย่าง

K-Speed
Scroll to Top