ตลาดรถยนต์ไฮบริดในสหรัฐฯ คึกคัก เผยยอดขาย Toyota Prius เพิ่ม 363 เปอร์เซ็นต์
เป็นช่วงขาลงของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เลยก็ว่าได้สำหรับปี 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุดเลดี้ได้ฟังข่าวเมื่อวันก่อน คาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ ส่งผลกระทบให้ราคาทองในบ้านเราขึ้นเอาๆ จะเหยียบ 37,000 อยู่แล้วทุกคน แต่ๆ สำหรับตลาดรถยนต์กลับสวนทาง ขายดิบขายดีมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่ง Honda เป็นหนึ่งในผู้ชนะรายใหญ่อีกราย มียอดขายเติบโตขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยอดขายของ Toyota Prius เพิ่มขึ้นถึง 363 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว และทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฮบริด ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ที่มีสินค้าคงคลังอยู่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยมียอดขายเกือบ 1.3 ล้านคัน ในเดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์ 2024
สารบัญเนื้อหา
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนกลับมาสนใจรถยนต์ไฮบริดเพิ่มมากขึ้นก็คือ ผู้บริโภคได้รับส่วนลดที่มากขึ้น รวมถึงสภาพอากาศที่เริ่มอุ่นขึ้น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮบริดมียอดการจัดจำหน่ายที่ดีขึ้น สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 5.6-6.3 เปอร์เซ็นต์ จากแหล่งข้อมูลของ GlobalData เผยอัตราการขายรถยนต์รายวันเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คันในเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นจาก 42,400 คันในเดือนมกราคม เติบโตต่อเนื่อง 19 เดือนติดต่อกัน นับเป็นสัญญาณในทิศทางขาขึ้นของตลาดรถยนต์สหรัฐฯ
“Hybrids Are Rockin” แปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า ไฮบริดมาจ้าแม่ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เอาจริงๆ ก็คือได้อานิสงส์จากผู้บริโภคที่ยังไม่พร้อมจะเลือกรถยนต์กลุ่มไฟฟ้าล้วนอ่ะแหละ ทำให้ผู้ผลิตทั้ง Toyota, Honda Ford รวมถึง Hyundai จึงมียอดขายรถยนต์ EV, Hybrid และ Plug-in Hybrid เพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าผู้บริโภคสามารถมีทางเลือกว่าจะใช้ Gasoline หรือ Hybrid ทำให้เพิ่มความอุ่นใจได้มากกว่า จึงมี Demand สูงกว่าเมื่อเทียบกับในรุ่น ICE นั่นเอง
ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ทำให้ตลาดเติบโตคือการส่งมอบที่เพิ่มขึ้นให้กับลูกค้าเชิงพาณิชย์ และผู้ประกอบการให้เช่ารายวัน ที่สูงกว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากรายงานของ GlobalData ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 257,000 คัน ในเดือนที่แล้ว โดยคว้าส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 20.6 เปอร์เซ็นต์
Youtube Cannel
